จับตาเฟซบุ๊กลุยโฆษณามือถือ-แท็บเล็ต//ผู้จัดการ

สื่อนอกฟันธง เดือนมี.ค.นี้จะเป็นช่วงเวลาที่เครือข่ายสังคมยักษ์ใหญ่อย่างเฟซบุ๊ก (Facebook) พร้อมทำเงินจากธุรกิจโฆษณาออนไลน์บนกลุ่มผู้ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพาทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต เชื่อเป็นการปรับท่าทีก่อนที่เฟซบุ๊กจะเริ่มจำหน่ายหุ้นครั้งแรกหรือ IPO อย่างเป็นทางการ ด้านเฟซบุ๊กยังอุบเงียบไม่ให้ความเห็นใดๆ ขณะที่สาวกเฟซบุ๊กยังลุ้นว่ารูปแบบโฆษณาของเฟซบุ๊กบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตจะรบกวนการใช้งานหรือไม่อย่างไร สำนักข่าวไฟแนนเชียลไทม์ส (monetary Times) รายงานว่าในจำนวนผู้ใช้เฟซบุ๊กทั่วโลก 845 ล้านราย มากกว่าครึ่งหนึ่งใช้งานเฟซบุ๊กบนอุปกรณ์เคลื่อนที่อย่างสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต แต่ในเอกสาร IPO filing ของเฟซบุ๊กซึ่งยังอยู่ระหว่างการยื่นข้อมูลขอเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนครั้งแรกนั้นระบุชัดเจนว่าเฟซบุ๊กยังไม่ได้ทำรายได้จริงจังจากโมบายล์แอปพลิเคชันหรือหน้าเฟซบุ๊กเวอร์ชันอุปกรณ์พกพาของเฟซบุ๊กเอง ทั้งหมดนี้ไฟแนนเชียลไทม์สเชื่อว่าเดือนมี.ค.นี้ เฟซบุ๊กจะเปลี่ยนท่าทีเพื่อขยายโอกาสทำเงินของตัวเอง รายงานจากไฟแนนเชียลไทม์วิเคราะห์ว่า รูปแบบโฆษณาของเฟซบุ๊กที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตต้องพบเจอจะมีชื่อเรียกว่า Sponsored Stories เรื่องราวที่ได้รับการสนับสนุนนี้เป็นรูปแบบการโฆษณาที่เฟซบุ๊กเริ่มต้นทำตลาดแก่ผู้ใช้เฟซบุ๊กบนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะในช่วงปี 2011 ที่ผ่านมา หลักการของ Sponsored Stories คือนักโฆษณาจะสามารถจ่ายเงินให้เฟซบุ๊กแสดงข้อความเตือนบอกให้ผู้ใช้รู้ว่าเพื่อนรายใดมีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ลงโฆษณา ทั้งความเคลื่อนไหวบนหน้าแบรนด์เพจ การเช็คอินที่หน้าร้าน หรือการวางแผนเดินทาง โดยเรื่องราวเหล่านี้จะแสดงไว้ที่ด้านขวามือของโฮมเพจเฟซบุ๊ก โดยล่าสุดเฟซบุ๊กได้ขยายพื้นที่ไปแสดงในหน้า News Feed ซึ่งผู้ใช้ส่วนใหญ่เข้าไปดูความเคลื่อนไหวของเพื่อนเป็นประจำ รายงานของไฟแนนเชียลไทม์สระบุว่า เฟซบุ๊กยืนยันแล้วว่า Sponsored Stories จะเริ่มให้บริการแก่ผู้ใช้เฟซบุ๊กทางสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตในช่วงเดือนมี.ค.นี้ โดยตั้งข้อสังเกตว่าเฟซบุ๊กได้บอกใบ้เรื่องนี้ไว้ในเอกสาร IPO filing ว่าบริษัทกำลังพิจารณาเพื่อโอกาสทางธุรกิจที่มาขึ้นในตลาดสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต เบื้องต้นพบว่ามีการเอ่ยชื่อ Sponsored Stories อย่างชัดเจน ในขณะที่ประชาสัมพันธ์เฟซบุ๊กยังคงปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับรายงานจากไฟแนนเชียลไทมส์ โลกออนไลน์มีการตั้งข้อสังเกตว่า  See More..